dtac Business blog

4 เทรนด์เทคโนโลยี 2019 อัพเกรดให้คุณเป็น “คนทำงาน” Rare item

Written by Naruemon Kongchuensin | 2019-04-29

เพราะโลกไม่เคยหยุดนิ่ง ทุกคนจึงต้องเรียนรู้สิ่งใหม่ เพื่อพัฒนาความสามารถ ต้องตามให้ทันทั้ง คน และ เทคโนโลยี ไปพร้อม กัน ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีที่อยู่ในชีวิตประจำวัน หรือเทคโนโลยีที่สร้างเสริมการทำงาน โดยเฉพาะ คนทำงาน ที่อยู่ในช่วงเวลาของการเรียนรู้ และพัฒนาศักยภาพเพื่อเป้าหมายที่วางไว้

ซึ่งคุณ ธเนศ อังคศิริสรรพ ผู้จัดการทั่วไป ประจำภูมิภาคอินโดจีน เลอโนโว ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเทรนด์เทคโนโลยีที่ต้องจับตามองในปี 2019” ที่จะช่วยอัพเกรดคนทำงานอย่างคุณให้กลายเป็น Rare item คนเก่งที่ใคร ก็อยากจะร่วมงานด้วย

 

1. Smart Space ต่อไปทุกอย่างรอบตัวเราจะฉลาดขึ้น 

Smart Space คือสภาพแวดล้อมที่ถูกพัฒนาด้วยเทคโนโลยี เพื่อตอบโจทย์เรื่องความสะดวกสบายในการทำงานและการใช้ชีวิตยิ่งขึ้น เราจะเห็นรูปแบบของการทำงานที่ อุปกรณ์ ระบบ และคน สามารถทำงานเชื่อมต่อกันได้อย่างมีประสิทธิภาพและฉลาดมากกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของ ดิจิทัล สเปซ, สมาร์ท โฮม, หรือสมาร์ท ซิตี้ ซึ่งจะได้เห็นเพิ่มขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้อย่างแน่นอน แต่สิ่งที่น่าคิดต่อไปก็คือ เมื่อคนเราคุ้นชินกับเทคโนโลยีที่คุ้นเคยและเหมาะกับการทำงานอยู่แล้ว อาจจะยังไม่ต้องการปรับตัวที่จะเข้าถึงเทคโนโลยีใหม่แบบก้าวกระโดดเช่นนี้ก็เป็นได้

 

2. ชีวิตดีขึ้น จากเทคโนโลยีสร้างประโยชน์ ( IOT, AI และ AR/VR )

ปัจจุบันในหลายธุรกิจและภาคอุตสาหกรรม ได้ให้ความสนใจกับนวัตกรรมใหม่ ไม่ว่าจะเป็น อินเตอร์เน็ตในทุกสิ่ง (IoT) ปัญญาประดิษฐิ์ (AI) หรือเทคโนโลยีเสมือนจริง (AR/VR) เพราะเป็นเทคโนโลยีที่ทำให้เกิดการเชื่อมต่อ และส่งเสริมการทำงานของ Automation อย่างเต็มรูปแบบ เราจะมองเห็นภาพจำลองในมุมมองเสมือนจริงที่มีประโยชน์ต่อการทำงานมากขึ้น เช่น ลดบางขั้นตอนในการทำงานลง การทำงานที่เห็นภาพอย่างละเอียดทำให้สามารถทำงานได้รวดเร็วขึ้น ฯลฯ ทั้งนี้ในปี 2019 เทคโนโลยีเหล่านี้จะยังพัฒนาอย่างต่อเนื่องให้สามารถใช้งานได้ในหลากหลายอุตสาหกรรม รวมไปถึงสังคมองค์กร การศึกษา หรือแม้แต่ร้านค้าก็จะถูกนำเทคโนโลยีดังกล่าวมาประยุกต์ใช้มากขึ้นเช่นกัน

ยกตัวอย่าง : อ้างอิงจากผลการวิจัย ของ Accenture พบว่า 72% ของผู้บริหารธุรกิจด้านสุขภาพ เชื่อว่าโลกเสมือนจริงนั้นจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการทำงานของทุกอุตสาหกรรมในอีกไม่กี่ข้างหน้านี้ เช่น เทคโนโลยีเสมือนจริง(AR/VR) จะถูกนำใช้ประโยชน์กับอุตสาหกรรมทางด้านสุขภาพ เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถเห็นบรรยากาศภายในของโรงพยาบาลได้ก่อนเข้าไปรับการรักษา ช่วยลดภาวะการวิตกกังวลเกี่ยวกับขั้นตอนต่างๆ หรือแม้แต่อุตสาหกรรมค้าปลีก ก็จะใช้เทคโนโลยีดังกล่าวในการเข้าถึงผู้บริโภคผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงพฤติกรรม นำไปสู่การสร้างประสบการณ์ที่ดีในการซื้อสินค้า และสร้างความสะดวกสบายยิ่งขึ้นเมื่อการซื้อสินค้าได้แบบอัติโนมัติม้วนเดียวจบในระบบออนไลน์ เป็นต้น

  

3.  AR ไม่ใช่เพื่อความสนุก แต่ต้องมีประโยชน์

AR หรือเทคโนโลยีเสมือนจริง เป็นตลาดที่เติบโตมากในปีนี้ ไม่ว่าจะเป็นแวดวงสื่อสารมวลชน เกม บันเทิง และการศึกษา จะมีการนำเทคโนโลยี AR มาใช้งานมากขึ้น หลายธุรกิจมีการนำเทคโนโลยีนี้ มาใช้เพื่อการอบรม เรียนรู้ผ่านภาพจำลองเสมือนจริงเพื่อให้เห็นภาพชัดเจนและเข้าใจง่ายขึ้น รวมถึงในอนาคตที่จะมีการใช้ 5G เต็มรูปแบบนั้น AR ก็จะถูกนำมาสร้างคุณค่าและประโยชน์ที่หลากหลายมากขึ้น เช่น ระบบความช่วยเหลือระยะไกลผ่านแว่น AR ที่จะสร้างความสะดวกสบายระหว่างคนทำงานออฟฟิศ และทีมงานภาคสนามให้ทำงานร่วมกันง่ายขึ้นกว่าเดิม ทั้งนี้ผลการวิจัยจาก IDC เกี่ยวกับข้อมูลเงินสะพัดมากขึ้นในวงการเทคโนโลยีเสมือนจริง ที่นำมาใช้ในอุตสาหกรรมเกม ดนตรี บันเทิงและภาพยนตร์ ทำให้มั่นใจได้ว่า AR จะเป็นสิ่งที่ได้รับความสนใจในวงกว้างเพื่อการทำงานที่มีประโยชน์มากขึ้นด้วยเช่นกัน


4. ความปลอดภัยบนโลกไซเบอร์แห่งอนาคตจะเป็นไปในทางใด?

สังคมการทำงานในปัจจุบันที่ต่างไปจากเมื่อก่อน หลายองค์กรเปิดโอกาสให้คนทำงานสามารถทำงานได้อย่างผ่อนคลาย และสะดวกมากขึ้น เช่นการนำอุปกรณ์ส่วนตัวมาใช้ทำงาน (BYOD) การเข้าถึงระบบการทำงานระยะไกล หรือการจ้างพนักงานชั่วคราวสำหรับทำโปรเจ็กต์ ฯลฯ ปัจจัยเหล่านี้ล้วนเป็นความเสี่ยงต่อประสิทธิภาพในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลในองค์กรจากการละเลยและไม่มีวินัยของคนทำงาน ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อความปลอดภัย และทรัพย์สินขององค์กรได้ในอนาคต การปรับตัวขององค์กรสมัยใหม่หลายที่จึงเลือกใช้เทคโนโลยีอย่าง AI เข้ามาเป็นตัวช่วยป้องกันความปลอดภัยของข้อมูล ซึ่งอย่างน้อย ก็มั่นใจได้ว่า จะมีความปลอดภัยมากกว่าการควบคุมข้อมูลผ่านมนุษย์ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น AI ก็ใช่ว่าจะไม่มีจุดอ่อน เพราะอาจเป็นช่องโหว่สำหรับเหล่าอาชญากรโลกไซเบอร์ได้ง่าย เช่นกัน ด้วยเหตุนี้ทำให้ในปี 2019 จะมีแนวโน้มในการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อป้องกันความปลอดภัยของข้อมูลอย่างรัดกุมขึ้น เช่น การยืนยันตัวตนผ่านหลายขั้นตอนมากขึ้นอย่างเข้มงวด รวมไปถึงการพัฒนาอุปกรณ์อัจฉริยะต่าง ในปีนี้ ทำให้ผู้ใช้งานจำเป็นต้องเรียนรู้เทคโนโลยีเพื่อปรับพฤติกรรมในการใช้เทคโนโลยีดังกล่าวได้อย่างเหมาะสม

นอกจาก 4 เทรนด์เทคโนโลยีข้างต้นแล้ว ยังมีอีกหลากหลายเทคโนโลยีที่ คนทำงาน สามารถนำมาประยุกต์ใช้ได้อย่างยอดเยี่ยม ยกตัวอย่าง  “Gratner” บริษัทวิจัยและวิเคราะห์ข้อมูลด้านเทคโนโลยีสารสนเทศชั้นนำของโลก ก็ได้ให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับเทรนด์ที่น่าสนใจในปี 2019 ในเรื่องของ Immersive Experience  ในปี 2019 นี้จะเกิดเทคโนโลยี Conversational Platform ที่ทำให้ผู้ใช้งานสามารถติดต่อ หรือควบคุมระบบต่างๆ ได้ด้วยภาษามนุษย์ผ่านทาง Chat หรือการพูดนั่นเอง โดยจะถูกนำมารวมเข้ากับ Virtual Reality (VR) Augmented Reality (AR) และ Mixed Reality (MR) เพื่อทำให้เกิดวิธีการสื่อสารในรูปแบบใหม่ระหว่างผู้ใช้งานกับเทคโนโลยี

เรื่องของเทรนด์เทคโนโลยีนั้น เป็นเรื่องที่คนทำงานอย่างเรา ต้องตามติดเพื่อนำมาปรับใช้กับชีวิตประจำวัน และเป็นตัวช่วยในการพัฒนาการทำงาน ให้คุณกลายเป็นคนที่มีประสบการณ์ และแนวคิดที่แตกต่าง และล้ำหน้าอยู่เสมอ มั่นใจได้เลยว่า เทคโนโลยีจะช่วยสร้างคุณค่าการทำงานของคุณให้เหนือกว่าที่เคยเป็นเสมือน Rare Item ในองค์กรที่ใครก็ต้องการ

 


ที่มา : MarketeerOnline.co 
           T
echTalkThai
            M2Fnews